- กฎแห่งกรรมไม่หมดอายุPosted 2 days ago
- อย่าหัวชนฝาPosted 3 days ago
- เปลี่ยนเป็นตลาดการค้าไวๆPosted 4 days ago
- มนุษย์เกิดมิคสัญญีที่ใจPosted 5 days ago
- ระวังเพื่อความปลอดภัยPosted 6 days ago
- ขอให้ฮึดสู้Posted 1 week ago
- สยบพวกอันธพาลให้ได้Posted 1 week ago
- อย่าทำอะไรมักง่ายPosted 2 weeks ago
- ผ้าเหลืองห่อเปรตPosted 2 weeks ago
- จงตั้งใจเรียนเพื่อพ่อแม่Posted 2 weeks ago
นายกฯเยือนจีนประชุมBRF26-27เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ มีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation – BRF) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในหัวข้อหลัก Belt and Road Cooperation : Shaping a Brighter Shared Future ซึ่งจะมีผู้นำจาก 38 ประเทศเข้าร่วม
ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะผลักดันในที่ประชุมคือ 1.เน้นย้ำบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนในการส่งเสริมความเชื่อมโยงในทุกมิติ และแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคและภูมิภาคผ่าน MPAC 2025 และ ACMECS Master Plan 2.ขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมนโยบายประเทศไทย 4.0 นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค และการยกระดับสถานะไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์ คมนาคม และการขนส่งของอาเซียน และเป็นประตูสู่อาเซียนของจีน และ 3.ผลักดันให้จีนใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ ACMECS ในการเป็นตัวเชื่อมจีนและอาเซียน และส่งเสริมความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อระหว่างกรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area – GBA) และกรอบความร่วมมือพื้นที่สามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียง (Pan – Pearl River Delta – PPRD) กับ EEC
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีจะพบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของจีน ได้แก่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง และรองนายกรัฐมนตรีหาน เจิ้ง โดยจะหารือถึงแนวทางการกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงความร่วมมือจีน-ญี่ปุ่นในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนในอนุภูมิภาคและภูมิภาค พร้อมย้ำถึงความสำคัญของบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีนในภูมิภาค และการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของประเทศไทยด้วย
ขอบคุณภาพประกอบจาก-เว็บไซต์สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
You must be logged in to post a comment Login